- น้ำยาลอกสี *แต่ถ้าในบ้านท่านมีเด็กเล็กหรือสุนักที่ซนมากๆ ผมไม่แนะนำนะครับ
- กระดาษทราย โดยใช้ทั้งหมด 3 เบอร์ดังนี้ครับ 180, 400, 1000 ถ้าไม่มีก็ใช้ที่ใกล้เคียงก็ได้นะครับ
- ถุงมือยางขอรุ่นนานๆ ยาวๆ นะครับ
- แว่นใสป้องกันสายตา
- พู่กันแบนเบอร์ใหญ่ แต่ไม่ใหญ่กว่าปากกระป๋องของน้ำยาลอกสีนะครับ
- กาละมัง
- ทิชชู่แผ่นใหญ่ที่เอาไว้ซับน้ำมัน
โดยชิ้นส่วนที่ผมเลือกมาในวันนี้ได้แก้ส่วน "สเต็ม" ครับ จากที่เห็นก็คงทราบว่านี่คือสเต็มรุ่นออกจะโบราณสักหน่อย ไม่มีอะไรซับซ้อน แต่ด้วยกรรมวิธีการพ่นสีมาจากโรงงานก็ทำให้สีที่มาเดิมๆ นั้นเอาออกยากเอาการเลยหล่ะ ทีนี้ถ้าบ้านที่ไม่มีเด็ก หรือสุนัขซนๆ ผมแนะนำให้ใช้น้ำยาลอกสีครับ สนนราคากระป๋องละประมาณ 70 บาท น้ำยาตัวนี้มีความเป็นกรดอ่อนๆ แต่ก็ไม่อ่อนขนาดที่ร่างกายมนุษย์จะทนได้ ผมเคยโดนน้ำยาลอกสีกระเด็นใส่ทั้งแขน และเปลือกตา เรียกว่าวิ่งเอาน้ำมาล้างแก้พิษแทบไม่ทัน ปวดแสบปวดร้อนอยู่นานสองนาน ฉะนั้นเราควรเตรียมอุปรณ์ป้องกันตัวไว้ด้วย ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ได้แก่ แว่นตาใสเพื่อกันสารกระเด็นเข้าตา ถุงมือยางแบบยาว
เมื่ออุปกรณ์ทุกอย่างพร้อมแล้วเราก็เริ่มพิธีกรรมลอกสีกันเลยครับ ก่อนอื่นเราต้องหาที่มั่นของเราก่อน ซึ้งก็คือบริเวณที่ใกล้กับก๊อกน้ำ (ที่เปิดแล้วมีน้ำออกมาด้วยนะครับ) เพื่อว่าเวลาที่เกิดอุบัติเหตุกรดกระเด็นจะได้เปิดน้ำรดบริเวณที่โดนกรด ต้องเปิดให้น้ำไหลผ่านไปเรื่อยๆ นะครับ นานๆ เพื่อเจือจางกรดที่กระเด็นใส่ ห้ามเช็ด ถูไถ หรือเอาด่างมาแก้ เพราะอาจจะยิ่งแย่กว่าเก่า เมื่อเเตรียมตัวเรียบร้อบเราก็ลงมือกันเลย โดยการใช่พู่กันจุ่มน้ำยาลอกสี แล้วก็ทาๆๆๆๆๆๆ ทาไปสักพัก สีตรงบริเวณที่ทาจะพองออกมา เราก็ใช้ทิชชูเช็ดออกครับ กรดจะไปทำหน้าที่กัด และละลายสี ให้เหลว เราต้องใช้วิธีเช็ดออก เพราะถ้าเอาน้ำล้างกรดจะถูกแก้ฤทธิ์ สีจะกลับมาเกาะดังเดิม เราก็ ทาๆ เช็ดๆ แบบนี้จนสีส่วนมากหลุดออกมาจนเห็นเนื้อของวัสดุข้างในครับ
ทีนี้เราก็เอาน้ำยาลอกสีเก็บได้ เพราะต่อมาเราจะทำการเก็บรายละเอียด และสร้างพื้นที่ยึดเกาะด้วยกระดาษทรายครับ อ้าว....แล้วในเมื่อเราใช้น้ำยาลอกสีแล้ว ยังจะต้องมาใช้กระดาษทรายขัดอีกหรือ? ควรเป็นอย่างยิ่งครับ เพราะน้ำยาลอกสี ไม่เอาลอกเอาส่วนที่เป็นสนิมออกไป รวมถึงเศษสีที่ติดอยู่ด้วย ทีนี้เราก็เริ่มจากกระดาษทรายเบอร์ที่หบายที่สุดก่อน คือเบอร์ 180 กระดาษทรายที่ใช้ขัดสีจะเป็นกระดาษทรายน้ำนะครับ เราจึงจำเป็นที่จะต้องมีกาละมังรองน้ำไว้จุ่ม ไว้แจ๊ะ ขัดหยาบเสร็จ ก็ค่อยขัดละเอียดด้วยเบอร์ 400 เสร็จแล้วเราก็มาลบรอยขนแมวจากกระดาษทรายเบอร์ใหญ่ๆ กันด้วยกระดาษทราบเบอร์ 1000 ครับ
เสร็จแล้วครับ หลังจากที่ขัดชิ้นงานจนเรี่ยมเร้ เรไร เราก็เอาชิ้นงานไปเช็ดด้วยผ้าแห้ง แล้วเอามาผึ่งลมไว้อีกทีครับ ถ้ายังไม่ได้พ่นสีในทันทีควรทำการอาบน้ำมันไว้เพื่อป้องกันสนิทที่อาจจะเกิดขึ้นได้ครับ...วันนี้เมื่อยแล้ว พอแค่นี้ก่อน เดียวคราวหน้าจะมาถึงขั้นตอนการทำสีแล้วครับ
ข้อควรระวัง : ถ้าเราใช้พู่กันจุ่มลงไปในกระป๋องน้ำยาลอกสีตรงๆ จะมีสี และสิ่งสกปรกเจือปนลงไปในน้ำยาที่อยู่ในกระป๋องด้วย เมื่อทิ้งไว้จะทำให้เกิดแก๊ส เมื่อเปิดกระป๋องอาจจะทำให้มีน้ำยาบางส่วนพุ่งกระเซ็นขึ้นมาเข้าตาเราได้....ผมโดนมาแล้ว ฉะนั้นสวมเครื่องป้องกัน และจงเปิดแบบกลัวๆ
ขอบคุณข้อมูลที่นำมาแชร์มากนะครับ
ReplyDeleteผมเองก็รับทำสีจักรยานเช่นกัน
ขอนำเกร็ดความรู้ดีๆไปพัฒนาต่อนะครับ
ขอบคุณมากสำหรับรีวิวค่ะ ละเอียดสุดๆ (นี่ก็ซื้อของมาเตรียมไว้ละ กะจะซ้อมมือกับเฟรมจักรยานเก่าก่อน 55 )
ReplyDelete