D.I.Y. : มาทำสีจักรยานกันเถอะ ตอนที่ 2

            สวัสดีครับ ไม่ต้องเกริ่นอะไรแล้ว ถ้าใครสงสัยก็กลับไปอ่านเรื่อง มาทำสีจักรยานกันเถอะ ตอนที่ 1 ได้เลยครับ พอเราได้ชิ้นงานที่เป็นเนื้อโลหะเพียวๆ ปราศจากสี คราบสกปรกและฝุ่นติดแล้ว เราก็มาเริ่มขั้นตอนการเตรียมสถานที่กันได้เลยครับ


การเตรียมสถานที่

• ห่างไกลจากผู้คนเพราะกลิ่นสีของเราอาจจะไปรบกวนผู้อื่นได้ครับ ถ้าเลือกไม่ได้จริงๆ ก็ให้อยู่ใต้ลมก็แล้วกัน
• บริเวณที่พ่นสี ต้องไม่มีลมแรง
• ฝุ่นไม่เยอะ
• ไม่โดนฝน หรือละอองน้ำ

            เวลาผมทำสีผมจะไปซื้อผ้าพลาสติกมาครับ เพื่อกั้นรอบๆ ชิ้นงานที่จะพ่อนตามภาพ ซึ่งก็ได้ผลเป็นที่น่าพอใจและราคาไม่แพงมาก เมื่อเตรียมสถานที่เสร็จแล้วเราก็มาเริ่มพ่นสีกันเลย โดยเราจะใช้สีทั้งหมด 3 แบบ คือ สีรองพื้น สีจริง และสีเคลือบ (ในกรณีที่จะทำสีด้านอาจจะไม่จำเป็นต้องเคลือบสี หรืออาจจะใช้สีเคลือบแบบด้านก็ได้เช่นกันครับ)

การพ่นสี

• การพ่นสีรองพื้น เราต้องพ่นสีรองพื้นก่อนนะครับ สีรองพื้นนั้นจริงๆ ก็มีหลายหน้าที่ ได้แก่ ป้องกันสนิม ทำให้สีจริงยึดเกาะกับชิ้นงานได้ดี มีความยืดหยุ่น และช่วยปกปิดสีเก่า(ในกรณีลอกสีไม่หมด) ซึ่งสีรองพื้นที่มีจำหน่ายกันอยู่ตามร้านทั่วไปก็มีอยู่สามสี ตือ ขาว เทา และส้ม แต่สีส้มนี่ไม่ค่อยเห็นเท่าไหร่นัก ส่วนตัวผมแนะนำให้ใช้สีเทานะครับ...เพราะผมชอบ 5555 การพ่นก็ไม่ยากอะไร พ่นรอบแรกบางๆ กระจายให้ทั่วชิ้นงาน แล้วทิ้งไว้ 10 - 20 นาที ค่อยพ่นรอบสอง รอบนี้ขอให้หนาหน่อย ให้ทั่วชิ้นงานจนไม่เห็นโลหะเลยนะครับ แต่อย่าให้หนาจนเกินไป เพราะมันจะทำให้จักรยานของเรามีน้ำหนักมากขึ้นเช่นกัน อาจจะฟังดูเหมือนยาก แต่ถ้าเป็นคนมือนิ่งๆ หล่ะก็พ่นได้แน่นอน พ่นเสร็จแล้วก็ทิ้งไว้ 10-20 นาที
• การพ่นสีจริง การพ่นสีจริงนั้น ถ้าไม่ได้ไล่สีทูนโทน ก็พ่นไปได้เลยครับ โดยพ่นทั้งหมด 3 รอบ  2 รอบแรก ก็พ่นเหมือนกับสีรองพื้นครับ แต่ในรอบที่ 3 เรามาพ่นเก็บรายละเอียดอีกที ถ้าเราจะพ่นเคลือบก็ไม่ต้องพ่นสีจริงหนามากก็ได้ครับ เก็บรายละเอียดให้สีเนียนเท่ากันก็เป็นอันเสร็จครับ โดยแต่ละชั้นก็ทิ้งให้แห้งประมาณ 10-20 นาที
• การพ่นเคลือบ การพ่นเคลือบผมพ่นรอบเดียวเลยครับ บางๆ ให้ทั่ว จนมันวาวก็เสร็จขบวนการพ่นสีแล้วครับ

การอบสี

            เมื่อเสร็จขั้นตอนการพ่นสีแล้ว ถ้าเราอยากให้สีมันวาว ติดทนนาน ก็ก็ควรจะอบสีนะครับ ในอู่ทำสีที่รับทำสีจักรยาน โดยทำสีระบบ 2K ก็จะมีการอบสีให้เราเช่นเดียวกันกับรถยนต์นั่นแหละครับ แต่ร้านรับทำสีจักรยานที่อบสีให้ด้วยก็จะมีราคาค่าแรงอยู่ที่ 2,000 บาท หรือมากกว่านั้น แต่ในกรณีนักปั่นกระเป๋าแบนแบบเรา ผมขอเสนอวิธีการอบสีง่ายๆ บ้านๆ 2 วิธีครับ

            วิธีแรก ตากแดดนี่แหละครับ วิธีธรรมชาติ โดยแดดที่เหมาะสมก็คือแดดหน้าหน้า และหน้าร้อน โดยช่วงที่แดดแรงๆ ช่วงสายๆ ถึง บ่ายแก่ๆ เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด แต่การตากแดดนั้นมีข้อจำกัดอยู่บ้างคือเราไม่สามารถควบคุมความร้อนที่เหมาะสมได้ และยังควบคุมเวลาไม่ได้อีกด้วย ถ้าเมฆมาบังก็จบกันครับ

            วิธีที่สอง นั่นคือการทำราวอบสีขึ้นมาเอง โดยอาจจะประยุคใช้ราวตากผ้าที่มีอยู่ในบ้าน แล้วก็ติดไป 50-100W สีส้มๆ ร้อนๆ ส่องใส่ชิ้นงานในระยะ 1 ฟุต อย่าใกล้จนเกินไปนะครับเดี๋ยวสีจะพอง ถ้าควบคุมระยะให้เหมาะสม ร้อนทั่วถึง อบประมาณ 5-10 ชม. เรียบร้อยแล้วครับ

หวังว่าบทความนี้คงจะเป็นประโยชน์กับมือใหม่นักทำสีไม่มากก็น้อยนะครับ ถ้าใครมีข้อมูลที่อยากจะแลกเปลี่ยนก็สามารถคอมเม้นต์ได้ครับ

แอดมินเอ้