Tuesday, May 6, 2014

มาปฏิวัติการเดินทางในเมืองกันเถอะ

ทำไมเราจึงควรปฏิวัติการเดินทางในเมืองด้วยจักรยาน?

            ถึงแม้ในปัจจุบันเราเห็นผู้คนมากมายหันมาใช้จักรยานในการเดินทางในเมืองใหญ่ๆ แต่การตัดสินใจที่จะใช้จักรยานเพื่อการเดินทางไปทำงานนั้นดูจะเป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก เพราะอากาศในเมืองบ้านเราที่ทั้งร้อน ทั้งอบอ้าว กว่าจะไปถึงที่ทำงานก็เล่นเอาเหงื่อท่วม ตัวเหม็นเหนียวเหนอะหนะ  ผมเคยลองปั่นไปแล้ว ด้วยระยะทาง 23 กิโลเมตร ดีที่ออฟฟิตผมมีฟิตเนส ผมเลยสามารถอาบน้ำได้ แต่การเดินทางก็กินเวลาประมาณ 1 ชั่วโทงเลยทีเดียว แต่ถ้าจะมองกันที่ข้อดีที่เห็นได้ชัดก็คือ การขี่จักรยานเป็นพลังงานสะอาด ไม่มีค่าใช้จ่าย (ถ้าไม่นับตอนซื้อจักรยาน) สนุกและดีสำหรับสุขภาพของคุณ ฉะนั้นขี่ไปทำงานหมายถึงการเริ่มต้นวันที่ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเดินทางตอนเช้าข เมืองไม่ต้องรับภาระจากมลพิษที่เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล และถ้าเราใช้จักรยานกันมากขึ้นมันย่อมจะเป็นผลดีต่อสภาพการจราจรโดยรวมครับ



จักรยานที่เหมาะสำหรับการเดินทางในเมือง?

            บางคนบอกว่าปั่นในเมืองต้องใช้รถพับสิ เราสามารถพับขึ้นรถแท๊กซี่ พับขึ้นรถไฟฟ้า พับขึ้นรถเมล์ได้เลย แต่สำหรับผมแล้ว ผมว่าจักรยานอะไรก็ได้ครับ จะเสือหมอบ เสือภูเขา BMX จักรยานแม่บ้าน ทัวริ่ง หรือแม้แต่จักรยานล้อเดียว ก็สามารถนำมาใช้ในเมืองได้

            จักรยานหลายๆ ยี่ห้อตอนนี้เริ่มมีการออกจักรยานสำหรับการใช้งานในเมืองมากขึ้น เมื่อไม่กี่วันผมเพิ่งได้เจอกับ "จักรยานเสือหมอบสำหรับปั่นในเมือง" ตอนเห็นครั้งแรกรู้สึกแปลกใจ ปนสงสัย แต่ก็ได้ความกระจ่างว่ามันก็คือเสือหมอบนี่แหละ แต่มีการปรับขนาดให้เกิดความคล่องตัว มุดได้ สามารถเพิ่มเติมกระเป๋าใส่ของ อุปกรณ์เสริม อะไรต่างๆ ได้อีกเยอะ ในความคิดผม ผมว่าจักรยานที่น่าปั่นในเมืองอีกประเภทก็คือจักรยานไฮบริด เพราะเป็นการรวมองค์ประกอบของจักรยานเสือภูเขาและจักรยานท่องเที่ยว เอาไว้ในตัว ซึ่งก็น่าจะเหมาะสำหรับการปั่นในทุกๆ สภาพถนน (เมืองใหญ่ๆ ในบ้านเราเจอครบครับ
 ขอบอก)

การปรับแต่งจักรยานให้เหมาะสมกับเมือง
 
            สำหรับการตกแต่งจักรยานให้เหมาะสมกับการปั่นในเมืองนั้น ก็ตามแต่ความนิยมชมชอบเลยครับ แต่ผมอยากจะขอให้เน้นเรื่องความปลอดภัยมาเป็นอันดับ 1 ในเมืองที่มีสภาพการจราจรที่วุ่นวาย ไฟแสงสีรบกวนสมาธิผู้ใช้รถยนต์เป็นอย่างมาก ไฟสัญญาณที่บอกให้คนขับรถรู้ว่าจักรยานอยู่ตรงนี้นะจ๊ะ จึงจำเป็นอย่างยิ่ง อย่าไปกลัวว่าใครจะว่าเราป๊อดนะครับ กันไว้ดีกว่า แต่ก็อย่าให้ถึงขั้นแยงตาคนที่ใช้รถใช้ถนนนะครับ
            เกียร์ ในปัจจุบันมีเกยร์มากมายหลายสิบยี่ห้อ หลายร้อยประเภท และหลายพันรุ่น ถ้าจะพูดเอาสาระว่าเกียร์สำหรับจักยานในเมือง ก็คงไม่ได้ใช้กันถึง 21 speed หรอกครับแต่ถ้าซื้อมาแล้ว ไม่อยากเสียเงินเพิ่ม ใช้ๆ ไปก่อนก็ไม่ว่ากัน แต่ถ้าคิดจะเปลี่ยนลองหาเกียร์ที่เหมาะสมดูก็ดีนะครับ เกียร์น้อย น้ำหนักน้อยลง ดูแลง่ายขึ้นด้วย
            แฮนด์ อันนี้แน่นอนเลยครับ ปรับแต่งแฮนด์ให้สามารถมุดได้ถนัดๆ ดูมอเตอร์ไซด์แว๊นซ์เอานะครับ แต่ก็อย่าให้ถึงกับขับลำบากนะ อันตราย
            ระบบห้ามล้อ หรือเบรคนั่นเอง อันนี้ก็แล้วแต่กำลังทรัพย์ แต่ผมอยากให้เช็คสภาพอยู่เสมอ เบรคเลยไปแค่นิ้วเดียว ก็อาจจะหมายถึงชีวิตได้นะครับ
            ระบบล็อค และถุงใส่จักรยาน ทุกวันนี้ในหลายๆ จุดผมสังเกตเห็นจุดจอดจักรยานมีอยู่มากมาย มีโครงเหล็กให้เราเกาะจักรยานยึดไม้กับพื้น ลองหาโซ่ หรือระบบล็อคที่มีน้ำหนักเบา เข้ากับรถเราได้มาใช้ดูนะครับ เผื่อว่าอาจจะต้องจอดรถไว้ในหลายๆ กรณีผมเคนแล้ว ส่วนเรื่องถุงใส่จักรยานนั้นใช้ใน 2 กรณีครับ กรณีที่จะต้องขึ้นรถไฟฟ้า หรือรถไฟใต้ดิน และในกรณีที่จะต้องขึ้นแท็กซี่ครับ



ฮีโร่ในตัวเรา

            ทุกวันนี้มองไปทางไหนก็มีแต่กระแสรักษ์โลก พิทักษ์สิ่งแวดล้อม ผมรู้จักน้องอยู่คนหนึ่ง พูดเรื่องนี้บ่อยมาก แทบจะทุกวัน แต่เธอเองก็ใช้สินค้าพลาสติดทิ้งๆ ขว้างๆ ใช้โฟม เดินทางโดยรถส่วนตัว ชอบกินบัฟเฟ่แบบทิ้งๆ ขว้างๆ และที่สำคัญเธอไม่เชื่อว่าจักรยานจะปฏิวัติโลกได้ ผมไม่อยากให้คิดแบบนั้นกันนะครับ เราทุกคนมีฮีโร่อยู่ในตัวเองแทบทุกคน เราไม่จำเป็นต้องกระโดดลงน้ำไปช่วยชีวิตวาฬ ต่อสู้กับพวกตัดไม้ หรือไปจุดไฟเผาตัวเพื่อประท้วงบ่อขยะ เราเริ่มได้ง่ายๆ ครับ เริ่มที่จักรยานนี่แหละ พอมันเริ่มซึมเข้าสู่นิสัยแล้ว กิจวัตรอื่นๆ ก็จะรักษ์โลกเองโดยอัตโนมัติ และเชื่อหรือเปล่าครับ คนรอบข้างเราก็จะติดโรคไข้ปั่นจากเราไปด้วย จากผลการสำรวจเมืองใหญ่หลายๆ เมืองทั่วโลกที่เริ่มมีนโยบายจักรยาน และคนใช้จักรยานร่วมกับระบบชนส่งมวลชน พบว่าสภาพมลพิษน้อยลง อากาศดีขึ้น ในสวนสาธารณะพบไลเคนเป็นจำนวนมาก (พืชตระกูลเฟิร์น(มั๊ง) ที่เปราะบางมาก) ซึ่งเป็นพืชที่เป็นดัชนีชี้วัดสภาพอากาศ ยิ่งถ้ามีไลเคนมาก ก็แปลว่ามลพิษในอากาศมีน้อยลงนั่นเอง มา......เชื่อสิครับ เราทำได้ มานะครับ มาปั่นกันครับ

"อยากปั่น ออกไปปั่น"

No comments:

Post a Comment